สำหรับชาวต่างชาติ ตัวอักษรภาษาจีนนั้นดูเหมือนกัน แต่ความเป็นจริงระบบการเขียนอักษรจีนนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ อักษรจีนตัวเต็ม “จีนดั้งเดิม” และอักษรจีนตัวย่อ

อักษรจีนตัวเต็ม หรือที่เรียกว่า “Traditional Chinese” มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นและราชวงศ์ถัง แต่เมื่อมีการปฏิวัติวัฒนธรรมจีนในปี 2508 เหมา เจ๋อ ตง มีความต้องการให้อักษรจีนตัวเต็มมีความเรียบง่ายมากขึ้นและสอดคล้องกับความประณีตในลัทธิมาร์กซ์ จึงให้นักวิชาการบางส่วนคิดค้นภาษาจีนตัวย่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน

ต่อมาได้มีการนำวิธีการเขียนภาษาจีนทั้งสองแบบมาใช้ในประเทศจีน ซึ่งต่อมาช่วงเวลาหนึ่ง ได้มีการใช้อำนาจทางการเมืองโดยตรงเพื่อบังคับใช้ภาษาจีนตัวย่อเป็นภาษาราชการและใช้ในทุกภาคส่วนของประเทศจีน ซึ่งในขณะนั้นที่ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า, สิงคโปร์ และรวมไปถึงมาเลเซียยังคงใช้อักษรจีนตัวเต็ม จนมีการขยายอิทธิพลของจีนในช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้ สิงคโปร์ และมาเลเซียก็ได้เปลี่ยนมาใช้อักษรจีนตัวย่อ ทางด้านฮ่องกง และ มาเก๊าก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและโดนปกครองโดยประเทศจีนซึ่งก็เปลี่ยนมาใช้ภาษาจีนตัวย่อโดยปริยาย จึงทำให้ทุกวันนี้ไต้หวันเป็นเพียงประเทศเดียวที่ใช้อักษรจีนแบบดั้งเดิม

ซึ่งแม้ว่าจะมีแนวโน้มมากขึ้นที่คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่เรียนภาษาจีนจะใช้ภาษาจีนตัวย่อ เป็นเพราะว่าระบบพินอินที่ใช้ในจีนมีการใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษมาสะกดเพื่อให้เป็นคำจีนซึ่งง่ายกว่าสำหรับชาวต่างชาติที่จะใช้งาน แต่เวลาผ่านไปชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งก็เริ่มได้สัมผัสถึงความสวยงามของการใช้อักษรจีนตัวเต็ม จึงเป็นสาเหตุให้มีการใช้ระบบออกเสียงแบบไต้หวันเพื่อเรียนรู้ภาษาจีนในแบบดั้งเดิมอีกด้วย

อ้างอิงจาก “พจนานุกรมคังซี” จำนวนตัวอักษจีนทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 47,000 กว่าตัวอักษร แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ แค่ 3000 กว่าตัวอักษร ก็เพียงพอสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันหรือพูดคุยกับอ่านหนังสือทั่วไป จากข้อมูลทางการอักษรจีนตัวย่อที่ออกโดยคณะกรรมการปฏิรูปอักษาจีนในปี พ.ศ. 2530 มีอักษรจีนตัวย่อทั้งหมดประมาณ 2400 ตัวอักษร แม้ว่าจะดูไม่เยอะ แต่ก็เป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของอักษรจีนที่ใช้กันทั่วไป

สำหรับคนที่เรียนอักษรจีนตัวเต็ม นอกจากจะสามารถเข้าใจอักษรจีนตัวย่อได้อย่างง่ายดายแล้ว ตัวคันจิที่ใช้กันในภาษาญี่ปุ่นหรืออักษรฮันจาที่ใช้ในเกาหลีใต้ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วและทำให้เกิดการเข้าใจผิดทางภาษาได้น้อยมาก

อักษรจีนค่อนข้างยากสำหรับชาวต่างชาติที่จะเข้าใจในแง่ของภาพลักษณ์ตัวอักษรผสมผสานด้วยรูปภาพต่าง ๆ และแต่ละคำก็อาจจะมีหลายความหมาย แต่หากรู้คำศัพท์ภาษาจีนต่างๆ แล้ว เรื่องไวยากรณ์ไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลมากนักสำหรับการเรียนภาษาจีน เนื่องจากไวยากรณ์ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรเลย

จากทั้งหมดที่พูดถึงมา ไม่สามารถตัดสินได้ว่าการใช้ตัวอักษรจีนตัวเต็มหรือตัวย่อ ใช้แบบไหน ดี หรือ ไม่ดี อยู่ที่ความเหมาะสมในการใช้งานว่าต้องการใช้งานเพื่อสื่อสารกับคนภูมิภาคไหน ซึ่งหากคุยกับคนสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง มาเก๊าก็ต้องใช้อักษรจีนตัวย่อ และหากว่ากลุ่มเป้าหมายทางการตลาดของคุณคือไต้หวัน ภาษาจีนตัวเต็มคือคำตอบ

ณ จุดนี้ เชื่อว่าหลายคนยังสับสนกับความแตกต่างของอักษรจีนทั้งสองระบบนี้ แต่ไม่เป็นไร เรามีเจ้าของภาษาทั้งแบบที่ใช้จีนดั้งเดิมและจีนย่อ หากคุณสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

หากใครต้องการที่ปรึกษา ที่เชี่ยวชาญในการทำการตลาดจีน สามารถติดต่อ Millideas ได้ทาง
โทร: 02-938-7304/ 098-7826141
Email: Info@millideas.net

Message us