ภาพจาก Facebook Samanea Plaza Thailand

เมื่อไม่กี่วันมานี้ทางเพจลงทุนแมนได้ลงบทความเกี่ยวกับซามาเนีย พลาซ่า ห้างจีนขนาดใหญ่ ที่จะมาตัดวงจร พ่อค้าคนกลางในไทย เนื่องจากหลายปีมานี้ สินค้าจากจีนถูกนำเข้ามาขายในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าชาวจีนที่เปิดหน้าร้านออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce แล้วส่งสินค้าข้ามน้ำข้าม ทะเลมาจากจีนหรือผู้ประกอบการชาวไทยที่สั่งสินค้าจากจีนและนำมาขายต่อให้คนไทยด้วยกันโดยกินกำไรจากส่วนต่างราคา แต่ภาพเหล่านี้อาจกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อในหลายวันที่ผ่านมา มีการมาของ “ซามาเนีย พลาซ่า” ศูนย์ค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่ ที่นำเข้าสินค้าจากประเทศจีนจำนวนมากมาขายให้กับคนไทยโดยตรงถึงที่ ซึ่งไม่ใช่แค่หน้าร้าน แต่ยังมีโกดังสินค้า ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือแม้แต่โรงแรมเปิดให้บริการอยู่ในโครงการอีกด้วย เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว

ซามาเนีย คือผู้พัฒนาโครงการศูนย์ค้าส่งขนาดใหญ่ ที่มีโครงการอยู่ในหลายประเทศทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน พม่า อินโดนีเซีย กัมพูชา ออสเตรเลีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำหรับ “ซามาเนีย พลาซ่า” ประเทศไทย เป็นโครงการศูนย์การค้าครบวงจรขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ โดยโครงการนี้มีพื้นที่รวมทั้งหมดมากกว่า 220 ไร่ หรือใหญ่กว่าเซ็นทรัลเวิลด์ ถึง 3 เท่าด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้ “ซามาเนีย พลาซ่า”  ไม่ได้มีแค่ หน้าร้านให้ผู้ประกอบการมาเช่าขายของ แต่ยังรวมไปถึง

– คลังสินค้าไว้ให้บริการแก่ผู้เช่า

– ห้องไลฟ์สดไว้ให้ผู้ประกอบการใช้ไลฟ์สดขายของ

– ที่พักสำหรับพนักงานและอะพาร์ตเมนต์

– โรงแรมและอาคารสำนักงาน

ภาพจาก Facebook Samanea Plaza Thailand

สำหรับในส่วนของสินค้านั้น “ซามาเนีย พลาซ่า”  ประเทศไทยจะมีสินค้านำเข้าจากประเทศจีนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือช่าง เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์ไอที อะไหล่ยนต์ เครื่องแต่งกาย หรือแม้แต่เครื่องประดับ โดยนอกจากขายผ่านหน้าร้านแล้ว แถมยังมีวางขายในช่องทางออนไลน์อีกด้วย แต่จุดเด่นของ “ซามาเนีย พลาซ่า” ก็คือเรื่องของราคาสินค้าที่มีราคาถูก ตามแบบฉบับของศูนย์ค้าส่ง อีกทั้งรูปแบบของโครงการที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการจีน สามารถเข้ามาขายสินค้าในไทยได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ทำให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้ถูกกว่าผู้ประกอบการชาวไทย ที่ต้องนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายต่ออีกทอดหนึ่ง และอีกเหตุผลหนึ่งคือ “สินค้าจากจีนที่นำเข้ามาขายในไทย ถ้าราคาไม่ถึง 1,500 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม“ ดังนั้น จึงทำให้ราคาสินค้าใน “ซามาเนีย พลาซ่า” ถูกกว่าสินค้าของผู้ประกอบการชาวไทย ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้การมีโกดังสินค้าให้บริการ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าสินค้ามาเก็บไว้ในโกดังก่อนได้ จึงสามารถส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าได้ทันที

ไม่ต่างจากผู้ประกอบการชาวไทย ยิ่งไปกว่านั้น ทางโครงการยังมีห้องไลฟ์สด ไว้ให้พ่อค้าแม่ค้ามาไลฟ์สดขายของกันได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นอาวุธเด็ดของการขายของออนไลน์ในเวลานี้ จะเห็นได้ว่า “ซามาเนีย พลาซ่า” เป็นโครงการศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ ที่จะส่งผลกระทบต่อคนไทยเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ผู้บริโภค แต่รวมไปถึง

– ผู้ประกอบการชาวไทยที่นำเข้าสินค้าจากจีนมาขาย

– ผู้ผลิตสินค้าชาวไทย

– แพลตฟอร์ม E-Commerce

ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตามองกันต่อไป ว่าสุดท้ายแล้ว แต่ละฝ่ายจะปรับตัวกันอย่างไร และจะอยู่รอดกันได้หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ตลาดนำเข้าสินค้าจีน ได้ยกระดับการแข่งขันขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งเรียบร้อยแล้ว

ที่มา : ลงทุนแมน

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0wJWf8ixB99W6YoUePdq1XM11HHgwHyXrkNDAyZTgKaSR7TLLFiBkarSgXh1TLM4dl&id=113397052526245&mibextid=Nif5oz

Message us